รีวิว ดาบพิฆาตอสูร มูฟวี่ภาคการสั่งสอนของเสาหลัก – บันเทิงจัด แต่ไม่จัดหนักอย่างที่คิด

ดาบพิฆาตอสูร กลับมาอีกครั้งสำหรับมูฟวี่เวิลด์ทัวร์ของ Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba ตอนพิเศษในฉบับฉายโรง ที่กลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่าในทุกครั้งก่อนขึ้นภาคใหม่ จะมีการนำตอนสุดท้ายของภาคก่อนหน้ากับตอนแรกของภาคใหม่มาฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก ซึ่งรอบนี้ก็เป็นบทโหมโรงของภาค ‘การสั่งสอนของเสาหลัก’ ที่มาฉายในชื่อว่า ดาบพิฆาตอสูร: ปาฏิหาริย์แห่งสายสัมพันธ์ สู่การสั่งสอนของเสาหลัก

รีวิว ดาบพิฆาตอสูร มูฟวี่ภาคการสั่งสอนของเสาหลัก

ดาบพิฆาตอสูร สำหรับผู้เขียนแล้ว ดาบพิฆาตอสูรยังคงเป็นอนิเมะที่มีความคงเส้นคงวาในด้านคุณภาพมากที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าอนิเมะเรื่องนี้ผลิตโดยค่ายคุณภาพอย่าง Ufotable ซึ่งได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว แม้บางคนจะมองว่าลายเส้นมีความแข็ง (เพราะสไตล์งานภาพมีการตัดเส้นหนา) แต่ผู้เขียนมองว่า มันค่อนข้างจะออกมาเนียนตามากกว่าอนิเมะเรื่องอื่นในยุคเดียวกัน

ในขณะที่อนิเมะดังเรื่องอื่น อย่าง ‘Onepiece’, ‘Jujutsu Kaisen’ เลือกเปลี่ยนสไตล์งานภาพให้เป็นแบบเส้นอ่อน เพื่อทำให้ภาพดูสมูธ ทว่ามันกลับทำให้งานภาพบางจุดดูเผา ซึ่งต่างจากดาบพิฆาตอสูรที่ยังคงเอกลักษณ์เส้นเข้มนี้ไว้ ที่แม้จะดูแข็งไปบ้าง แต่เราก็แทบมองไม่เห็นจุดด่างพร้อยของงานภาพ เรียกได้ว่าดีใจที่ Ufotable ไม่เปลี่ยนสไตล์งานภาพเป็นแบบอนิเมะเรื่องอื่นในยุคเดียวกัน สำหรับภาคนี้จุดที่ชอบที่สุดก็คือ ฉากเสาหลักวายุกับเสาหลักอสรพิษตะลุยปราสาทไร้ขอบเขตของมุซัน ที่แม้เราจะเคยเห็นฉากปราสาทไร้ขอบเขตในตอนพิเศษของภาคที่แล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉากปราสาทไร้ขอบเขต มันช่างเป็น Cinema Experiences ที่ต้องดูในโรงภาพยนตร์จริง ๆ

ส่วนของเนื้อหาของตอนพิเศษ ในครึ่งแรกคือการนำตอนสุดท้ายของภาคหมู่บ้านช่างตีดาบมาฉาย ซึ่งเป็นตอนที่ทำให้เราเห็นถึงพัฒนาการของทันจิโร่ด้วยฉากสุดบีบคั้น พร้อมกับสร้างความตื้นตันไปในตอนเดียวกัน อีกครึ่งจึงเป็นเนื้อหาในตอนแรกของภาคการสั่งสอนของเสาหลัก ซึ่งตอนนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นการรวมพลตัวละครเก่ามากหน้าหลายตา ให้กลับมาอยู่กันอย่างพร้อมเพรียง โดยบอกเป็นนัยว่า ภาคนี้พวกเขากลับมารวมตัวในแบบฉบับที่เก่งขึ้น และพร้อมออกไปประจัญบานกับศึกใหญ่ที่เราใกล้จะได้ดูในอนาคต

การที่ตัวละครเก่ากลับมารวมญาติกัน ความสนุกจึงเป็นการที่ได้เห็นพวกเขาเข้ามาเล่นมุกกระเซ้าเย้าแหย่ ได้เห็นเสาหลักในมุมที่ไม่เคยเห็น ซึ่งเป็นความเก่งของผู้เขียนโคโยฮารุ โกโตะเกะ (Koyoharu Gotouge) ที่สามารถทำให้เนื้อหาเพลิดเพลินได้ แม้จะมีแค่ฉากคุยกัน แต่สิ่งนี้ก็เป็นอีกข้อสังเกต ที่อาจเป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน สำหรับเราแล้วมูฟวี่ตอนพิเศษของดาบพิฆาตอสูร คือการได้ดูฉากอลังการที่เป็น Cinema Experiences ซึ่งสตรีมมิงให้ไม่ได้ ยกตัวอย่างภาคที่แล้ว จะมีฉากไคลแมกซ์ของอสูรกิวทาโร่กับเสาหลักเสียง ซึ่งงานอนิเมต ทั้งภาพ และเสียงจัดเต็มตั้งแต่ตอนเป็นสตรีมมิง นั่นทำให้การนำฉากนั้นมาฉายในโรง จึงเป็นการยกระดับประสบการณ์ดังกล่าวจากสตรีมมิงได้อย่างดี

ทว่าภาคนี้กลับไม่มีฉากแบบนั้น เพราะในตอนสุดท้ายของภาคหมู่บ้านช่างตีดาบ ไฟต์ซีนแทบไม่ได้มีความอลังการเหมือนของภาคย่านเริงรมย์ เพราะจะเน้นไปที่การขับเคลื่อนอารมณ์ของเรื่องราวแทน มันจึงเป็นจุดที่อาจเป็นข้อสังเกตเล็กน้อยว่า ถ้าใครคาดหวังจะเข้าไปดูฉากต่อสู้สุดอลังการที่เป็น Cinema Experiences ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ อีกทั้งในส่วนของพาร์ตการฝึกของเสาหลักนั้น แม้ตอนแรกจะมีการวางเส้นเรื่องที่ดี ตัวละครเข้าขา แต่เรากลับไม่ได้เห็นการโชว์งานภาพที่มีความอลังการอะไรเลย นอกจากฉากปราสาทไร้ขอบเขต (ซึ่งเคยเห็นกันมาอยู่แล้ว) เนื่องจากตอนแรกเป็นเหมือนบทโหมโรง ที่มีแต่ฉากพูดคุยกันล้วน ๆ

อีกสิ่งหนึ่งที่ขับเคลื่อนความบันเทิง คือการได้นั่งลุ้นว่าวงไหนจะเป็นคนมาร้องเพลงประกอบให้ และเพลงประกอบของภาคนี้จะเป็นโทนแบบไหน ซึ่งภาคนี้ก็ยังตอบโจทย์อยู่เช่นเคย เพราะเพลงประกอบอย่าง Mugen ที่ร้องโดย My First Story x Hyde ก็ยังทำหน้าที่เสริมฉากปิดในช่วงท้ายของเรื่องได้อย่างดี จุดนี้เป็นการการันตีว่านอกจากดาบพิฆาตอสูรจะเป็นอนิเมะภาพสวยแล้ว ยังเป็นอนิเมะที่เพลงประกอบ ทำออกมาได้มีคุณภาพในทุกภาคเช่นกัน สำหรับเราแล้ว ดาบพิฆาตอสูร: ปาฏิหาริย์แห่งสายสัมพันธ์ สู่การสั่งสอนของเสาหลัก จึงเป็นตอนพิเศษที่ทำมาเพื่อเป็นบทโหมโรง เป็นตอนขั้นที่สร้างมาให้รู้ว่าซีรีส์กำลังจะฉายแล้วนะ ซึ่งในแง่คุณภาพก็ยังตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน แต่ถ้ามองในแง่ความบันเทิงที่เป็น Cinema Experiences แล้วมันไม่ได้ตอบโจทย์ขนาดนั้น ถ้าไม่ได้รีบเท่าไหร่ รอในสตรีมมิงก็ได้นะ

จุดเด่น

  1. งานภาพยังคงความสวยงามแบบไร้ที่ติ
  2. ฉากที่เพิ่มเข้ามาจากในมังงะถือว่าอลังการมาก
  3. เพลง Mugen ในระบบเสียงของโรงภาพยนตร์
  4. ตัวละครเก่ากลับมาเจอกันอีกครั้ง ในแบบฉบับที่สร้างสีสันกว่าเดิม

จุดสังเกต

  1. ความเป็น Cinema Experiences หายไป ไม่ได้มีฉากที่ทำให้อยากไปดูในโรงขนาดนั้น
  2. ซีรีส์นี้ควรทำฉาก Recap ได้แล้ว เพราะเอาฉากเดิมมาฉาย อารมณ์มันไม่ต่อเนื่องเอาซะเลย ดาบพิฆาตอสูร

บทความที่น่าสนใจ

หัวข้อที่น่าสนใจ